เลสเตอร์ชนะลุ้นท็อปโฟร์รับสเปอร์สต้องซิวชัยลุ้นตั๋วยูโรปา

วันนี้ ( 23 พฤษภาคม 64 ) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ 38 "จิ้งจอกน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม บริดจ์รับการมาเยือนของ "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส ลงทำการแข่งขันเวลา 22.00 น. ถ่ายทอดสดทางทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล HD 4 (604)

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา

20/12/20 สเปอร์ส 0 - 2 เลสเตอร์ (พรีเมียร์ลีก)

19/07/20 สเปอร์ส 3 - 0 เลสเตอร์ (พรีเมียร์ลีก)

21/09/19 เลสเตอร์ 2 - 1 สเปอร์ส (พรีเมียร์ลีก)

10/02/19 สเปอร์ส 3 - 1 เลสเตอร์ (พรีเมียร์ลีก)

09/12/18 เลสเตอร์ 0 - 2 สเปอร์ส (พรีเมียร์ลีก)

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม

เลสเตอร์

19/05/21 แพ้ เชลซี 1-2 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

15/05/21 ชนะ เชลซี 1-0 (สนามกลาง, เอฟเอ คัพ)

12/05/21 ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

08/05/21 แพ้ นิวคาสเซิ่ล 2-4 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

01/05/21 เสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

สเปอร์ส

20/05/21 แพ้ แอสตัน วิลล่า 1-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

16/05/21 ชนะ วูล์ฟส์ 2-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

08/05/21 แพ้ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-3 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

03/05/21 ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 4-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

25/04/21 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-1 (สนามกลาง, คาราบาว คัพ)

ความพร้อมล่าสุด

เลสเตอร์

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือพา "จิ้งจอกน้ำเงิน" บุกพ่ายเชลซี 1-2 ในเกมลีกนัดล่าสุดทำให้หล่นมารั้งที่ 5 ตามหลังเชลซี 1 แต้มและมีแต้มเท่าลิเวอร์พูลแต่ประตูได้เสียเป็นรองเกมนี้จึงต้องชนะเท่านั้นแล้วแช่งให้อีกสองทีมไม่ชนะจึงจะได้ลุย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า

ความพร้อมเกมนี้จะชวดใช้งาน จอนนี่ อีแวนส์ ปราการหลังจอมเก๋าที่เจ็บส้นเท้ารวมทั้งตัวเจ็บหน้าเดิมทั้ง ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ และ เจมส์ จัสติน ยังต้องหักรักษาตัวต่อไป ขณะที่ เวส มอร์แกน เซนเตอร์จอมเก๋ากัปตันทีมชุดแชมป์พรีเมียร์ลีกและ คริสเตียน ฟุ๊คส์ แบ็กซ้ายจะช่วยทีมเป็นเกมสุดท้ายอำลา

การจัดทัพยังคงถอยทิโมธี กาสตาญ มายืนหลังสามร่วมกับเวสลี่ย์ โฟฟาน่า และ คลาการ์ โซยุนคู ต่อไปพร้อมให้มาร์ค อัลไบรท์ตั เล่นวิงขวาแทนส่วนตำแหน่งอื่นไม่น่าเปลี่ยนจากเกมล่าสุดให้เจมส์ แมดดิสัน ปั้นเกมรุกกับ อโยเซ่ เปเรซ เหมือนเดิมโดยมี เจมี่ วาร์ดี้ ยืนหน้าเป้า

11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม

ระบบ (3-4-2-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ; ทิโมธี กาสตาญ, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, คลาการ์ โซยุนคู ; มาร์ค อัลไบรท์ตัน, ยูริ ตีเลอมันส์, วิลฟรีด เอ็นดิดี้, ลุค โธมัส ; อโยเซ่ เปเรซ, เจมส์ แมดดิสัน ; เจมี่ วาร์ดี้

สเปอร์ส

ไรอัน เมสัน กุนซือรักษาการณ์วัย 29 ปีน่าจะคุมทีมเป็นเกมสุดท้ายหลังพา "ไก่เดือยทอง" แพ้ แอสตัน วิลล่า คาบ้าน 1-2 หล่นมาอยู่อันดับ 7 ต้องการชัยชนะเกมนี้เพื่อการันตั๋วยูโรปา คอนเฟอร์เรนซ์ ลีก รายการใหม่ของยูฟ่าหรือแซงเวสต์แฮมคว้าตั๋วยูโรปา ลีกหากขุนค้อนพ่าย

ความพร้อมเกมนี้ยังคงชวดใช้งานเบน เดวิส แบ็กซ้ายทีมชาติเวลส์ที่เจ็บยาวมาก่อนหน้านี้รวมทั้งจาเฟต แทนกันก้า อีกหนึ่งกองหลังที่เจ็บข้อเท้าจากเกมกลางสัปดาห์

การจัดทัพยังคงให้ แฮร์รี่ เคน ลงล่าดาวซัลโวซึ่งอาจเป็นเกมสุกท้ายของเจ้าตัวกับไก่เดือยทองส่วนแบ็กขวาจะใช้แมตต์ โดเฮอร์ตี้ แทน แทนกันก้า ส่วนตำแหน่งอื่นๆม่น่าเปลี่ยนแปลงมีปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก, แกเรธ เบล, เดเล่ อัลลี่ และ ซน ฮึง-มิน นำทัพ

11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม

ระบบ (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส ; แมตต์ โดเฮอร์ตี้, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เอริก ดายเออร์, เซร์คิโอ เรกีลอน ; โจวานนี่ โล เซลโซ่, ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก ; แกเรธ เบล, เดเล่ อัลลี่, ซน ฮึง-มิน ; แฮร์รี่ เคน

True4U ชี้ขาดผลการแข่งขัน

ต่างเล่นด้วยควากดดันทั้งคู่แต่เชื่อว่าเกมนี้เลสเตอร์ที่ต้องชนะไว้ก่อนน่าจะเล่นตามสไตล์ไม่เปิดเกมบุกใส่แน่รอหาจังหวะโจมตี ขณะที่สเปอร์สยุคเมสันฟอร์มไม่นิ่งเหมือนเดิมเกมรับหลวมเกมรุกขึ้นเกมช้าเน้นความชัวร์เกินไปจึงเชื่อว่าเกมนี้เลสเตอร์ที่เล่นกันได้ครบเครื่องแน่นอนกว่าน่าจะบดเอาชนะได้

เลสเตอร์ ชนะ สเปอร์ส 2-1