ลิเวอร์พูลต้องชนะเพื่อลุ้นท็อปโฟร์ดวลเซาธ์แฮมป์ตันขอหวนเก็บชัย
พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัด 35 ที่แอนฟิลด์ "หงส์แดง" หวังชัยต่อความหวังลุ้นท็อปโฟร์รับมือ "นักบุญ" หวังเก็บชัยหยุดผลงานห่วย เริ่มฟาดแข้งเวลา 02.15 น. และทรรศนะจากทีมงาน
วันนี้ ( 8 พฤษภาคม 64 ) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ 35 "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน ลงทำการแข่งขันเวลา 02.15 น. ถ่ายทอดสดทางทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล HD 1 (600)
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
05/01/21 เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
01/02/20 ลิเวอร์พูล 4-0 เซาธ์แฮมป์ตัน (พรีเมียร์ลีก)
17/08/19 เซาธ์แฮมป์ตัน 1-2 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
06/04/19 เซาธ์แฮมป์ตัน 1-3 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
22/09/18 ลิเวอร์พูล 3-0 เซาธ์แฮมป์ตัน (พรีเมียร์ลีก)
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล
24/04/21 เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
20/04/21 เสมอ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
14/04/21 เสมอ เรอัล มาดริด 0-0 (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)
10/04/21 ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
07/04/21 แพ้ เรอัล มาดริด 1-3 (เยือน, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)
เซาธ์แฮมป์ตัน
01/05/21 เสมอ เลสเตอร์ 1-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
21/04/21 แพ้ สเปอร์ส 1-2 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
19/04/21 แพ้ เลสเตอร์ 0-1 (สนามกลาง, เอฟเอ คัพ)
13/04/21 แพ้ เวสต์บรอมวิชฯ 0-3 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
04/04/21 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
ความพร้อมล่าสุด
ลิเวอร์พูล
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันพา "หงส์แดง"โดนนิวคาสเซิ่ลตามตีเสมอ 1-1 ช่วงทดเจ็บทำให้เสมอมา 3 นัดติดต่อกันทุกรายการก่อนได้พักเต็มๆหลังเกมแดงเดือด กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อสัปดาห์ก่อนถูกเลื่อนออกไปทำให้ตามอันดับ 4 อย่าง เชลซี อยู่ 7 แต้มแต่แข่งน้อยกว่า 1 เกม
ความพร้อมเกมนี่ยังชวดใช้งานตัวเจ็บอย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ, โฌเอล มาติป, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ดีว็อค โอริกี้ ที่บาดเจ็บอยู่ทั้งหมดเช่นเคยแม้ฟาน ไดจ์ค, โกเมซ และ มาติ จะกลับมาซ้อมได้แล้วแต่ต้องใช้เวลาเรียกความฟิตอีกระยะ แต่จะได้ เนธาเนี่ยล ฟิลลิปส์ ปราการหลังดาวรุ่งฟิตกลับมาช่วยทีม
การจัดทัพน่าจะกลับมาใช้ ฟิลลิปส์ ยืนเซนเตอร์คู่กับ โอซาน คาบัค แล้วขยับ ฟาบินโญ่ กลับไปคุมเกมแดนกลางตามเดิมขณะที่เกมรุกน่าจัดทั้ง โม ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ , โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ ดีโอโก้ โชต้า ลงเล่นพร้อมกันอีกเกม
11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม
ระบบ (4-2-3-1) : อลีสซง เบ็คเกอร์ ; เทรน อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เนธาเนี่ยล ฟิลลิปส์, โอซาน คาบัค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ; ติอาโก้ อัลคันทาร่า, ฟาบินโญ่ ; โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ , ดีโอโก้ โชต้า ; โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
เซาธ์แฮมป์ตัน
ราล์ฟ ฮาเซ่นฮึทเทิ่ล กุนซือชาวออสเตรียพา "นักบุญ" เสมอ เลสเตอร์ 1-1 ในเกมลีกนัดล่าสุดทำให้ไม่ชนะ 4 เกมติดต่อกันทุกรายการอันดับในลีกหล่นรูดไปรั้งอันดับ 15 มี 37 แต้มอยู่เหนือทีมตกชั้น 10 แต้มแต่แข่งน้อยกว่า 1 เกม
ความพร้อมเกมนี้หมดสิทธิ์ใช้งาน ทาคูมิ มินามิโนะ ตัวรุกทีมชาติญี่ปุ่นเนื่องจากเจอต้นสังกัดที่แท้จริงหลังยืมตัวมาจากลิเวอร์พูล รวมทั้งตัวเจ็บอย่างไรอัน เบอร์ทรานด์ แบ็กซ้ายที่เจ็บน่อง และยังต้องเช็กความฟิตแดนนี่ อิงส์ กองหน้าตัวเก่งที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า และ โอริโอล โรเมว กองกลางสแปนิชเจ็บข้อเท้าโอกาสลงเล่น 50-50
การจัดทัพน่าให้มูสซ่า เฌเนโป เสียบแทน มินามิโนะเล่นเกมรุกร่วมกับ ธีโอ วัลคอตต์, เจมส์ วอร์ด-เพราส์ และ สจ๊วร์ต อาร์สตรอง ส่วนกองหน้าดันเนธาน เร้ดมอนด์ ขึ้นไปล่าตาข่ายร่วมกับเช อดัมส์ ส่วนเกมรับมี แยน เบ็ดนาเร็ก จับคู่เซนเตอร์กับ ยันนิค เวสเตอร์การ์ด เหมือนเดิม
11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม
ระบบ (4-4-2) : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ - ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, แยน เบ็ดนาเร็ก, ยันนิค เวสเตอร์การ์ด, แจ็ค สตีเฟ่นส์ - ธีโอ วัลคอตต์, เจมส์ วอร์ด-เพราส์, สจ๊วร์ต อาร์สตรอง, มูสซ่า เฌเนโป - เช อดัมส์, เนธาน เร้ดมอนด์
True4U ชี้ขาดผลการแข่งขัน
ลิเวอร์พุลต้องชนะเกมนี้เพื่อรักษาโอกาสลุ้นท็อปโฟร์เอาไว้ขณะที่เซาธ์แฮมป์ตันแม้ตามทฤษฎีจะยังไม่ปลอดภัยแต่ทางปฎิบัติไม่น่าต้องลุ้นอะไรหนักดูแล้วเกมนี้"หงส์แดง" น่าจะเล่นกันได้แน่นขึ้นถ้าขยับฟาบินโญ่มาคุมแดนกลางและหากเป็นเช่นนั้นน่าจะครองบอลบุกเข้าใส่และไม่น่าพลาดเก็บชัย
ลิเวอร์พูล ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-0